อารยธรรมที่ล่มสลายด้วยโรคระบาด มาชูปิกชู หรือเมืองที่สาบสูญแห่งอินคา เป็นหนึ่งในอารยธรรมโบราณของโลก มันเป็นช่วงที่รุ่งเรืองถึงจุดสูงสุด แต่ก็พังทลายลงเนื่องจากโรคระบาดและการล่าอาณานิคมของสเปน จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่าสามศตวรรษนับตั้งแต่เมืองนี้หายไป
มาชูปิกชูตั้งอยู่บนภูเขาของประเทศเปรู เข้าถึงได้ยากเนื่องจากตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 2,350 เมตร เนื่องจากตั้งอยู่บนที่ราบสูงแอนเดียน ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในป่าอเมซอนเหนือแม่น้ำอูรูบัมบา เป็นหนึ่งในอาคารของอารยธรรมอินคา เป็นอารยธรรมที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 13 และแพร่กระจายไปทั่วเปรู เอกวาดอร์ โคลัมเบียตอนใต้ พื้นที่ตะวันตกและทางใต้ของโบลิเวีย ชิลีตอนเหนือและอาร์เจนตินาตะวันตกเฉียงเหนือ
กษัตริย์แห่งอินคาได้รับการยกย่องว่าเป็น “บุตรแห่งดวงอาทิตย์” ต้องขอบคุณชาวอินคาที่เชื่อในดวงอาทิตย์ว่าเป็นผู้สร้างสายพันธุ์และเคารพดวงจันทร์ ดวงดาว และโลก เมืองนี้สูญหายไปเป็นเวลาสามศตวรรษ แต่การค้นพบใหม่ในปี 1911 โดยนักโบราณคดีชาวอเมริกัน ไฮรัม บิงแฮม ทำให้เมืองนี้กลับมาเป็นที่สนใจของผู้คนทั่วโลก อารยธรรมโบราณนี้สร้างขึ้นเป็นขั้นบันไดหลายขั้นลงมาจากเนินหุบเขา แต่ละขั้นสูง 3 เมตร มี 40 ชั้นเชื่อมต่อกันด้วยบันไดมากกว่า 3,000 ขั้น และอาคารหินมากกว่า 200 หลัง มันเป็นโครงสร้างที่น่าสนใจ ฉันประหลาดใจกับภูเขาที่สูงขนาดนี้
อารยธรรมที่ล่มสลายด้วยโรคระบาด มาชู ปิกชู สร้างขึ้นเพืออะไร ?
อารยธรรมที่ล่มสลายด้วยโรคระบาด มีการตั้งสมมติฐานว่าครั้งหนึ่งมาชูปิกชูเคยถูกปกครองโดยนักบวชแห่งพระอาทิตย์ จากนั้นจึงทำพิธีกรรมเพื่อถวายหญิงสาวเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้าของพวกเขา นอกจากนี้ยังเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของอินคาที่ต่อสู้กับชาวสเปน
นอกจากนี้ยังมีการคาดเดามากมาย มาชูปิกชูน่าจะเป็นที่ประทับของพระสงฆ์ที่ใช้ที่นี่เพื่อสังเกตวงโคจรของดวงอาทิตย์ เป็นสถานที่ที่สร้างตำนานกำเนิดโลกขึ้นมาใหม่ เนื่องจากมีหน้าต่างที่ดวงอาทิตย์หมุนรอบใจกลางจักรวาลในวันสุดท้ายของฤดูร้อนตามความเชื่อของชาวอินคา และเมื่อสิ้นสุดฤดูหนาว แท่นบูชาจะรองรับแท่นบูชา ซึ่งอาจตั้งใจจะใช้เป็นหอดูดาวเพื่อสังเกตวงโคจรของดวงอาทิตย์ด้วย
หรืออีกสมมติฐานที่กล่าวว่า มาชู ปิกชู อาจจะไม่ได้เป็นเมืองเลยก็ได้ ที่นี่น่าจะเป็นที่พักตากอากาศสำหรับเชื้อพระวงศ์ในช่วงฤดูแล้ง เพราะมาชูปิกชูประกอบด้วยราชวัง ซึ่งมีวิหารและคฤหาสน์ล้อมอยู่รอบๆ ซึ่งรวมไปถึงที่พักของผู้ทำงานในสถานที่นั้นๆ ด้วย
คาดว่าในหน้าฝนหรือช่วงที่ไม่มีเชื้อพระวงศ์มาพัก ที่นี่น่าจะมีผู้อาศัยอยู่ไม่เกิน 750 คน และเมืองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดย ปาชากูตี กษัติรย์แห่งอาณาจักรอินคาในช่วงปี 1440 และน่าจะมีผู้อาศัยอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งถูกชาวสเปนมายึดดินแดนในอีก 80 ปีให้หลัง
การบูชายันมนุษย์ ที่ มาชู ปิกชู ?
จากหลักฐานที่ค้นพบ ไม่น่าเป็นไปได้อย่างยิ่งที่มนุษย์จะได้รับการบูชาที่มาชูปิกชู แต่มีหลักฐานว่าสัตว์ได้รับการบูชา ที่แท่นบูชาที่ระลึก ยังมีความเชื่อในเรื่องชีวิตหลังความตายอีกด้วย เมื่อถึงเวลาที่ขุนนางผู้ล่วงลับไปไปสู่ชีวิตหลังความตาย จะต้องมีผู้ศรัทธาบางคนที่บูชาท่านเพื่อที่จะไปสู่ชีวิตหลังความตาย
หุบเขาศักดิ์สิทธิ์ บนรอยเลื่อนของโลก
นักโบราณคดีหลายคนตั้งคำถามถึงความลับของมาชูปิกชู รวมถึงที่ตั้งของมันด้วย และการก่อสร้าง จนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีใครสรุปแน่ชัดว่าเหตุใดจึงสร้างมาชู ปิกชู หรือเหตุใดจึงต้องสร้างบนเทือกเขาสูงเช่นนี้
ล่าสุดมีคนตีพิมพ์ผลการศึกษาทางธรณีวิทยา เป็นไปได้ว่าชาวอินคาเลือกภูมิภาคนี้ของเทือกเขาแอนดีสหรือหุบเขาศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากมีข้อบกพร่องในแผ่นเปลือกโลก และเช่นเดียวกับเมืองโบราณที่สำคัญอื่นๆ รอยแตกบนพื้นหินตัดกันเป็นรูปกากบาท (X) ของอาณาจักรอินคา
จาก ภาพถ่ายดาวเทียม ยิ่งยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า มาชูปิกชูถูกสร้างอยู่บนรอยเลื่อน และรอยแยกลักษณะดังกล่าว นั่นเพราะตามแนวรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลก ที่มีเทือกเขาสูง จะมีแหล่งหินเก่าแก่ตามธรรมชาติ ทำให้ชาวอินคาสามารถสร้างกำแพง ขั้นบันได และตัวอาคารได้อย่างง่ายดายโดยใช้การตัด และเรียงหิน
โรคระบาด และการล่มสลาย
จักรวรรดิอินคา เจริญรุ่งเรืองมานานหลายศตวรรษ มันคงจะพังทลายลงในปี 1532 เนื่องจากความอ่อนแอของมัน และความโกลาหลในเมืองหลวง มีการแย่งชิงบัลลังก์ในราชวงศ์ นอกจากนี้ โรคระบาดยังเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อทั่วทั้งราชอาณาจักร และโรคติดต่อร้ายแรง เช่น ไข้ทรพิษและไข้ทรพิษ ผู้ที่มีลักษณะเฉพาะบางอย่างจะมีผื่นตามร่างกาย คนผิวขาวจากตะวันตกแพร่เชื้อไข้ทรพิษอย่างรุนแรงไปยังชนพื้นเมืองของอเมริกาใต้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน และผู้คนจำนวนมากต้องเสียชีวิต จนกระทั่งจักรวรรดิเกือบล่มสลาย
อีกทั้งยังมีกองทหารล่าอาณานิคม ฟรันซิสโก ปีซาร์โร ชาวสเปน ได้พากองทัพมายังเมืองกาคามาร์กาเพื่อยึดครองดินแดน อย่างไรก็ตาม ชนพื้นเมือง ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกับกองทัพแห่งสเปนได้ ทำให้ อาตาอวลปา กษัติรย์แห่งอาณาจักรอินคาจึงถูกจับกุมตัวในที่สุด แม้ว่าชาวอินคา จะสามารถหาค่าไถ่มาได้เป็นทองมหาศาล แต่ปีซาร์โรกลับไม่ยอมปล่อยตัวประกันตามสัญญา และหาข้ออ้างประหารอาตาอวลปาในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1533 จึงเป็นการล่มสลายของอาณาจักรอินคาอย่างสมบูรณ์
มรดกโลก แห่งอาณาจักรอินคา สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่
ความยิ่งใหญ่ของ มาชู ปิกชู ซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญของอาณาจักรอินคา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1983 โดย UNESCO อีกทั้ง 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 มาชูปิกชูได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ทำให้มาชู ปิกชู เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนนิยมไปศึกษาประวัติศาสตร์ และกลายมาเป็นสถานท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเปรู และเพื่อการอนุรักษ์ทางการจึงอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปยังยอดเขา มาชู ปิกชู ได้เพียง 800 คนต่อวันเท่านั้น
การเดินทางไป มาชู ปิกชู
อารยธรรมที่ล่มสลายด้วยโรคระบาด การเดินทางสู่มาชูปิกชูบนเทือกเขาสูงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นการเตรียมร่างกายจึงมีความสำคัญมาก เมืองอินคาที่สาบสูญแห่งนี้อยู่ที่ระดับความสูง 2,350 เมตร และมีอากาศเบาบาง แล้วคุณจะเหนื่อยง่าย ไม่รวมเส้นทางที่ท้าทายที่สุดที่นักผจญภัยยังต้องท้อใจอยู่ คุณสามารถปีนขึ้นไปบนยอดมาชูปิกชูได้เพียงวันละสองครั้ง โดยมีผู้เข้าร่วม 400 คนในแต่ละรอบ เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม ดังนั้นทุกปีตั้งแต่เดือนเมษายนถึงตุลาคม จะเป็นช่วงฤดูฝน จึงไม่เหมาะสำหรับการเดินป่า จนในปัจจุบันนี้ มาชู ปิกชู ไม่ได้เป็นแค่ร่องรอยของอารยธรรมโลกที่เสื่อมไปตามกาลเวลา แต่เป็นจุดหมายหนึ่งของ การท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 1 ในทวีปอเมริกาใต้ ที่นักท่องเที่ยว ผู้รักการผจญภัยใฝ่ฝันอยากจะไปถึง อีกทั้งยังเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความลึกลับ และน่าค้นหา